ตลาดของสมาร์โฟนในปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูงมาก ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทั้งค่ายเล็ก ค่ายใหญ่ ต่างก็อัดสเปคกันมาอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะประสิทธิภาพของกล้อง ทั้งการเพิ่มเลนส์ต่าง ๆ การซูม โหมดถ่ายภาพ และลูกเล่นอื่น ๆ เพิ่มเข้ามาเพื่อเป็นจุดขายให้กับสมาร์ทโฟนของค่ายตัวเอง มีรุ่นไหนกันบ้างเราลองมาดูกันเลยยย
1.Xiaomi Redmi Note 8 (Ram 4GB) ราคา 4,999
มาพร้อมจอแสดงผล Dot Drop ขนาด 6.3 นิ้ว ให้ความคมชัด พร้อม Corning® Gorilla® Glass 5 ทั้งด้านหน้าและหลัง เพื่อป้องกันทุกรอยขีดข่วน ความคมชัดระดับ FHD+ ทั้งยังเป็นครั้งแรกของ Redmi Note Series ที่ร่วมมือกับ TÜV Rheinland ในการรับรองมาตราฐานป้องกันแสงสีฟ้า แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4000mAh (typ) จุใจ และรองรับการชาร์จเร็ว 18W ผ่านสาย USB Type C
ข้อดี
-หน้าจอให้สีสันค่อนข้างดี แม้เป็น IPS LCD
-กล้องหลังถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้ดี
-รองรับ WiFi 5GHz
-ราคาประหยัด คุ้มค่า
ข้อควรพิจาราณา
-ให้ ROM มาค่อนข้างน้อย
2.Mi Note 10 Pro 8+256GB ราคา 19,990
Xiaomi Mi Note 10 มือถือกล้องหลัง 5 ตัว ประสิทธิภาพเยี่ยม หน้าจอ AMOLED ขอบโค้ง ขนาด 6.47 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ HDR 10 ที่จะช่วยเก็บรายละเอียดเเละเพิ่มคอนทราสต์ของสี เเข็งเเรงทนทานด้วย Corning® Gorilla® glass ทั้งหน้าเเละหลัง มาพร้อมกับ ซีพียู Qualcomm Snapdragon 730G Octa-Core 2.2 GHz เเรม 6GB หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 128GB สเปกแบบนี้ เล่นเกมหนัก ๆ ได้สบาย และยังให้ความจุแบตเตอรี่ถึง 5,260 mAh รองรับชาร์จไว้ 30 วัตต์ เป็นสมาร์ทโฟนที่จัดว่าครบเครื่องรุ่นหนึ่งเลย
ข้อดี
-หน้าจอโค้งแบบ 3D ดูสวยงามมีระดับ
-ความจุแบตเตอรี่ถึง 5,260 mAh อยู่ได้สบาย ๆ ทั้งวัน
-ชาร์จเต็ม 100% ได้ภายในเวลา 65 นาที เท่านั้น
-กล้องหลัง 5 ตัว ความละเอียดสูงสุด 108MP กล้องหน้าความละเอียดอยู่ที่ 32MP
-กล้องวิดีโอมีโหมด Super Stabilizer กันสั่นได้ดีขึ้นมาก
-ราคากลาง ๆ ได้สเปคสูง
ข้อควรพิจาราณา
-ภาพที่ได้จากกล้อง 108MP ใช้เวลาในการ Process ค่อนข้างนาน
3.Samsung Galaxy S10 PLUS ราคา 21,900 บาท
Samsung Galaxy S10 PLUS มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 6.4 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบใหม่ที่เรียกว่า Dynamic AMOLED ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 6 ที่มีอัตราส่วน Contrast สูงถึง 2,000,000:1 นอกจากนี้ ยังรองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ เป็นรุ่นแรกของโลกอีกด้วย ใช้ชิปเซ็ต Exynos 9820 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.7 GHz กล้องหลัง 3 ตัว และ กล้องหน้าคู่ ความละเอียด 10+8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และมาพร้อมฟีเจอร์การถ่ายภาพอีกมากมาย เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด
ข้อดี
-รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ เป็นรุ่นแรกของโลก
-ลูกเล่นกล้องครบครัน การถ่ายภาพทำได้ดีทุกสภาพแสง
-รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
-แบตเตอรี่ใหญ่โต และเป็นแท่นชาร์จได้
-มีระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
ข้อควรพิจาราณา
-ไม่สามารถแปะกระจกนิรภัยได้ เพราะบังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
-เสี่ยงต่อการเป็นรอยง่าย
4.Huawei P30 Pro ราคา 23,241 บาท
Huawei P30 Pro มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.47 นิ้วความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล และหน้าจอโค้งมน มีจุดเด่นที่ขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นกว่าเดิม กล้องหลังมีมาให้ 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 40 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เป็นทรงหยดน้ำ โหมดการถ่ายภาพอื่นมีให้เลือกมากมายทั้งการถ่าย Light painting, ละลายหลัง, Qmoji และอื่น ๆ อีกมากมาย มีการติดตั้งลำโพงภายในหน้าจอทำให้คุณสนทนาได้ง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องจ่อลำโพงที่หูอีกต่อไป
ข้อดี
-จอขนาดใหญ่ถึง 6.47 นิ้ว โค้งมน ดูหรูหรา
-ลูกเล่นกล้องครบครัน การถ่ายภาพทำได้ดีทุกสภาพแสง
-รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
-แบตเตอรี่ใหญ่โต
-มีระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
ข้อควรพิจาราณา
-ลำโพงให้มาตัวเดียวเสียงไม่กังวาน
-ความละเอียดหน้าจอน้อย
5.Google Pixel 4 ราคา 23,900 บาท
Google Pixel 4 มาพร้อมชิปประมวลผล Snapdragon 855 แรม 6GB หน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1080p มี Refresh Rate สูงถึง 90Hz มีเซนเซอร์มาให้หลายตัวในขอบด้านบนของเครื่องเพื่อสร้างฟีเจอร์ Motion Sense สำหรับกล้อง มีการเพิ่มกล้องซูมหรือ Telephoto 2x แบบ Hybrid Zoom อัปเกรด Portrait mode ใช้กล้องซูมช่วยทำให้ได้การละลายฉากหลังที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี HDR+ ที่ช่วยปรับแสงและเงาของภาพให้ออกมาสวยงามมากยิ่งขึ้น ด้านวิดีโอ Pixel 4 รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p ที่ 30, 60 และ 120fps, 4K ที่ 30fps ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.0
ข้อดี
-หน้าจอมี Refresh Rate สูงถึง 90Hz
-มีเซนเซอร์มาให้หลายตัวในขอบด้านบนของเครื่องเพื่อสร้างฟีเจอร์ Motion Sense
-มีการเพิ่มกล้องซูม ช่วยทำให้ได้การละลายฉากหลังที่ดี
ข้อควรพิจาราณา
-ขาดเลนส์ถ่ายภาพมุมกว้าง Ultra-Wide และเซ็นเซอร์ ToF ที่ช่วยเพิ่มมุมมองการถ่ายภาพ
-แบตเตอรี่น้อย
6.IPHONE 11 PRO ราคา 35,900 บาท
iPhone 11 Pro ขนาดหน้าจอที่ 5.8 นิ้ว หน้าจอแบบใหม่ Super Retina XDR ถือว่าเป็นจอภาพ iPhone ที่สว่างและคมชัดที่สุด มีการเพิ่มเลนส์อัลตร้าไวด์และเลนส์ Telephoto เข้ามา ซึ่งทั้ง 3 เลนส์จะมีควมละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่ากันทั้งหมด สำหรับการบันทึกวิดีโอก็ทำได้ดี สามารถบันทึกวิดีโอได้ในระดับ 4K @60fps พร้อมระบบกันสั่นที่ทำงานได้ดี กล้องหน้า TrueDepth ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สามารถปรับมุมมองให้กว้างขึ้นได้ และยังสามารถถ่ายวิดีโอระดับ 4K ที่ 60 fps ได้เช่นกัน
ข้อดี
-หน้าจอแบบใหม่ Super Retina XDR ที่สว่างและคมชัดที่สุด
-การถ่ายภาพทำได้ดีมาก
-สามารถบันทึกวิดีโอได้ในระดับ 4K @60fps ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
-ระบบกันสั่นที่ทำงานได้ดี
-แบตฯอึดขึ้น รองรับชาร์จไว สามารถชาร์จ 30 นาทีได้ 50%
ข้อควรพิจาราณา
-ราคาค่อนข้างสูง
ทั้งหมดนี้เป็นสมาร์ทโฟนที่มีสเปคกล้องเทพอันดับต้นๆ แต่ยังมีบางรุ่นที่ราคาสูงมากๆเลยทีเดียว ทั้งนี้ต้องดูสเปคอย่างอื่นประกอบไปด้วยเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของเรา ให้คุ้มราคาที่เราต้องจ่ายไป
เกาะติด สมาร์ทโฟนอื่นๆ
Comments
Post a Comment